จรรยาบรรณของผู้ประกอบ
วิชาชีพวิศวกรรม
• จัดตั�งขึ�นตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542
สภาวิศวกร
มีสถานะเป�นนิติบุคคล
พิจารณาออกใบอนุญาต
ควบคุมการประกอบ วิชาชีพวิศวกรรม
บุคคลธรรมดา นิติบุคคล
วิชาชีพ
ความหมายของ “วิชาชีพ”
ใช้ความรู้ความสามารถเฉพาะ ทางในการปฏิบัติงาน
ได้รับการอบรมความรู้
เป�นพิเศษ และใช้ระยะเวลา อบรมเป�นเวลานาน
มีจรรยาบรรณ พร้อมองค์กร และกระบวนการเพื�อสอดส่องดูแล
Profession
งานวิศวกรรมควบคุม
วิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
ความรู้
ความช�านาญ
ความระมัดระวัง
เป�นงานที�มีความเสี�ยงสูง มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชน
ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
ได้รับใบอนุญาตฯ จากสภาวิศวกร
บุคคลธรรมดา นิติบุคคล
ใบอนุญาตที�ออกโดยสภาวิศวกร เพื�อให้สิทธิในการ ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม
สิทธิ + หน้าที� + ความคุ้มครอง
ขนาดของความระมัดระวัง
อาชีพ
ผู้มีวิชาชีพ
• ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรม ค ว บ คุ ม จ ะ ต้ อ ง ป ฏิ บั ติ ง า น ด้วยความระมัดระวังมากกว่า บุคคลทั�วไป
งานวิศวกรรมควบคุม
งาน ประเภท ขนาด
กฎกระทรวงกําหนดสาขาวิชาชีพวิศวกรรม และวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม พ.ศ. 2550
จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ
วิศวกรรม
จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม มาตรา 50
ข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ วิศวกรรม และการประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะนํามา
ซึ�งความเสื�อมเสียเกียรติศักดิ�แห่งวิชาชีพ พ.ศ. 2559
ผู้ได้รับใบอนุญาตต้องประพฤติ
ต น ต า ม จ ร ร ย า บ ร ร ณ แ ห่ ง วิชาชีพวิศวกรรม
หมายถึง ข้อบังคับที�สภาวิศวกรกําหนดขึ�น เพื�อให้ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ต้องปฏิบัติตาม โดยยึดหลักคุณธรรมเป�นหลัก สําคัญ
1. ความหมายของจรรยาบรรณ
แห่งวิชาชีพ
ความสําคัญของจรรยาบรรณ
เป�นแนวทางให้ผู้ประกอบวิชาชีพยึดถือปฏิบัติ
อย่างถูกต้องเหมาะสม
เพื�อให้วิชาชีพได้รับการยอมรับ และความ เชื�อมั�นจากสังคม
เพื�อผดุงเกียรติศักดิ�และศักดิ�ศรีแห่งวิชาชีพ
ที�มาของจรรยาบรรณ
ศีลธรรม
กฎหมาย จารีตประเพณี
ศาสนา บรรทัดฐานทางสังคม
จรรยาบรรณ
A
B C
E D
หลักปฏิบัติงานด้านวิศวกรรม
Code of Practice (ประมวลการปฏิบัติวิชาชีพ) Code of Conduct (ประมวลการประพฤติปฏิบัติ) Code of Ethics (จรรยาบรรณ)
CODES
Code of Practice
ประมวลการปฏิบัติวิชาชีพ
มาตรฐานในการประกอบวิชาชีพที�กําหนดขึ�น เพื�อให้วิศวกรยึดถือปฏิบัติงานด้านวิศวกรรม เป�นแนวทางเดียวกัน และให้การประกอบวิชาชีพเป�นไป ในทิศทางเดียวกัน ถูกต้องตามหลักปฏิบัติและ วิชาการ ซึ�งเป�นหลักทางวิชาการขั�นต้นที�ผู้ประกอบ วิชาชีพจะละเลยต่อหลักดังกล่าวไม่ได้
Code of Conduct
ประมวลการประพฤติปฏิบัติ
ประมวลหลักการประพฤติปฏิบัติ ประมวลข้อบังคับหรือ ร ะ เ บี ย บ ก า ร ป ร ะ พ ฤ ติ ป ฏิ บั ติ ที� อ ง ค์ ก ร ทางวิศวกรรมได้กําหนดขึ�นเพื�อให้
วิศวกรพึงยึดถือ เป�นแนวคุณธรรมและประพฤติปฏิบัติเพื�อให้เกิดความ ป ล อ ด ภั ย ต่ อ ชี วิ ต แ ล ะ ท รั พ ย์ สิ น ข อ ง สาธารณะ ตลอดจนรักษาชื�อเสียงและส่งเสริมเกียรติ
ศักดิ�แห่งวิชาชีพ
Code of Ethics จรรยาบรรณ
จรรยาบรรณ ประมวลจริยธรรม ประมวลความประพฤติ
ที�ผู้ประกอบวิชาชีพการงานแต่ละอย่างกําหนดขึ�นเพื�อรักษา และส่งเสริมเกียรติคุณ ชื�อเสียงและฐานะของสมาชิก
คําวินิจฉัยของคณะกรรมการจรรยาบรรณ
ยกข้อกล่าวหา ตักเตือน
ภาคทัณฑ์ (ไม่มีอายุ)
พักใช้ใบอนุญาตฯ ไม่เกิน 5 ปี
เพิกถอนใบอนุญาตฯ
การพิจารณา และวินิจฉัยชี�ขาด พระราชบัญญัติวิศวกร
พ.ศ. 2542 มาตรา 61
ข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยจรรยาบรรณแห่ง วิชาชีพวิศวกรรม และการประพฤติผิด
จรรยาบรรณอันจะนํามาซึ�งความเสื�อมเสีย เกียรติศักดิ�แห่งวิชาชีพ พ.ศ. 2559
2. ข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วย
จรรยาบรรณฯ
ข้อบังคับว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม
ข้อ 1 ข้อบังคับนี�เรียกว่า “ข้อบังคับสภาวิศวกรว่าด้วยจรรยาบรรณแห่ง วิชาชีพวิศวกรรมและการประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะนํามาซึ�งความเสื�อม เสียเกียรติศักดิ�แห่งวิชาชีพ พ.ศ. 2559”
ข้อ 2 ข้อบังคับนี�ให้ใช้บังคับตั�งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป�นต้นไป
ข้อ 3 ให้ยกเลิกข้อบังคับสภาวิศวกร ว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ วิศวกรรมและการประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะนํามาซึ�งความเสื�อมเสีย เกียรติศักดิ�แห่งวิชาชีพ พ.ศ. 2543
ข้อ 4 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อใด ข้อหนึ�งในข้อบังคับนี� ให้ถือว่าผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมนั�นประพฤติ
ผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรมหรือประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะ นํามาซึ�งความเสื�อมเสียเกียรติศักดิ�แห่งวิชาชีพ แล้วแต่กรณี
หมวด 1 จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ วิศวกรรม
ส่วนที� 1
จรรยาบรรณต่อสาธารณะ
ข้อ 5 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องประกอบ วิชาชีพโดยให้ความสําคัญต่อความปลอดภัย สุขอนามัย และ
สวัสดิภาพของสาธารณชน ตลอดจนทรัพย์สิน และ สิ�งแวดล้อมอันเป�นสาธารณะด้วย
วิศวกรควบคุมแม่แรงในการก่อสร้างทางรถไฟฟ้าเหนือผิวจราจรบริเวณถนนรามคําแหง มีหน้าที�
ควบคุมบังคับแม่แรงยกคานเหล็กที�ใช้รองรางปูนสําหรับประกอบทํารางรถไฟฟ้าเหนือผิวการจราจรให้
เป�นไปโดยปลอดภัย จึงต้องใช้ความระมัดระวังและทําการปิดการจราจรในบริเวณดังกล่าว การใช้งาน แม่แรงจะมีแหวนล็อคอยู่ที�ก้านของลูกสูบในแม่แรงแต่ละตัว ซึ�งสามารถปรับขึ�นลงได้โดยผู้ควบคุมแม่
แรงเพื�อป้องกันไม่ให้ก้านลูกสูบลดระดับลงกว่าที�ต้องการ จึงทําให้คานเหล็กที�ถูกยกโดยแม่แรงอยู่ใน ระดับระนาบไม่ลาดเอียงไปด้านใดด้านหนึ�ง จนอาจเกิดอันตรายได้ในระหว่างร่วมกันบังคับแม่แรง
กรณีศึกษา
ในวันเกิดเหตุ วิศวกรไม่ได้อยู่ควบคุมแม่แรง ในขณะที�คนงานทําการเลื�อนคานเหล็กโดยไม่ได้ปิดถนน บริเวณดังกล่าว เมื�อคนงานไม่ตรวจสอบและหมุนแหวนล็อคให้อยู่ในระดับที�เหมาะสมทําให้คานเหล็ก เอียงตกจากแม่แรงลงสู่ถนนรามคําแหง ทับรถยนต์เสียหายและประชาชนได้รับบาดเจ็บ
คณะกรรมการจรรยาบรรณจึงเห็นสมควรให้พักใช้ใบอนุญาตวิศวกรควบคุมแม่แรงเป�นเวลา 1 ปี
[3(9)/10]
ข้อ 6 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องละเว้นจาก การให้การสนับสนุน ส่งเสริม หรือเป�นตัวการ เกี�ยวกับ
การทุจริตในโครงการของภาครัฐหรือเอกชน
บทบัญญัติในข้อนี�มีวัตถุประสงค์เพื�อให้ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมไม่กระทําการอันอาจเป�น การเอื�อประโยชน์ที�จะนําไปสู่การทุจริตคอร์รัปชั�น ซึ�งสอดคล้องกับกฎหมายที�เกี�ยวข้องกับการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต
หมวด 1 จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ วิศวกรรม
ส่วนที� 2
จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ
ข้อ 7 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องประกอบ วิชาชีพวิศวกรรมด้วยความซื�อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบ
และระมัดระวัง
วิศวกรอวดอ้างว่าสามารถทําการออกแบบและยื�นขอรับใบอนุญาตก่อสร้างอาคารได้ภายใน 30 วัน ทําให้มีผู้หลงเชื�อและจ่ายเงินให้วิศวกรไป แต่ปรากฏว่าวิศวกรไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญา ผู้ว่าจ้างจึงได้
ติดตามทวงถามแต่ก็ไม่สามารถติดต่อกับวิศวกรได้ เป�นเหตุให้ผู้ว่าจ้างได้รับความเสียหาย
การที�วิศวกรได้เบิกเงินล่วงหน้าเพื�อเป�นค่าออกแบบคํานวณและยื�นขออนุญาตก่อสร้าง และยังมิได้คืน เงินแก่ผู้ว่าจ้าง แม้วิศวกรจะกล่าวอ้างว่าเงินที�ได้รับมานั�นได้นําไปเป�นค่าใช้จ่ายในการเขียนแบบก็ตาม แต่โดยปกติแล้ว เมื�อวิศวกรไม่สามารถยื�นขออนุญาตก่อสร้างได้ ก็ต้องแจ้งและอธิบายปัญหาที�เกิดขึ�น ให้ผู้ว่าจ้างทราบ เพื�อหาแนวทางแก้ไขและเจรจาคืนเงิน ประกอบกับการที�วิศวกรได้ยอมรับงานดังกล่าว
กรณีศึกษา
โดยใช้แบบแปลนที�ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมอื�นได้ออกแบบแปลนไว้แล้วนั�น แม้ว่าจะทําตาม คําสั�งของผู้ว่าจ้างก็ตาม แต่วิศวกรย่อมรู้ว่าหากรับทํางานดังกล่าวอาจมีความผิดทางจรรยาบรรณ แห่งวิชาชีพวิศวกรรมได้ แต่ปรากฏว่าวิศวกรไม่ได้โต้แย้งผู้ว่าจ้างแต่อย่างใด และการที�วิศวกรไม่
สามารถจัดหาวุฒิวิศวกรมาลงลายมือชื�อในแบบแปลนเพื�อยื�นขออนุญาตก่อสร้างตามมาตรา 39 ทวิ
แห่ง พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 โดยมิได้แจ้งให้ผู้ว่าจ้างทราบ และจงใจหลีกเลี�ยงที�จะติดต่อกับ ผู้ว่าจ้าง
คณะกรรมการจรรยาบรรณจึงเห็นควรให้ลงโทษพักใช้ใบอนุญาตฯ ของวิศวกรโดยมีกําหนดระยะเวลา 2 ปี
[3(3) และ 3(8)/7 และ 14]
ข้อ 8 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องปฏิบัติงาน ตามหลักปฏิบัติและวิชาการ
สามัญวิศวกร สาขาเครื�องกล ได้รับการว่าจ้างให้ทดสอบและรับรองความปลอดภัยในการใช้หม้อไอนํ�า ของโรงงานแห่งหนึ�ง โดยได้ลงลายมือชื�อรับรองความปลอดภัยในการใช้หม้อไอนํ�า แต่เมื�อเจ้าหน้าที�กรม โรงงานอุตสาหกรรมได้ทําการตรวจสอบไม่ได้ทําการอัดนํ�า (Hydrostatic Test) และวิศวกรได้รับสารภาพ กับคณะกรรมการจรรยาบรรณว่าไม่ได้อัดนํ�าจริง เพราะโรงงานไม่ได้หยุดใช้หม้อไอนํ�าและถ่ายเทความร้อน ก่อน 24 ชม. ในขณะไปตรวจหม้อนํ�ายังคงร้อนอยู่ ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในได้
คณะกรรมการจรรยาบรรณจึงเห็นสมควรให้ลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของวิศวกร โดยมี
ระยะเวลากําหนด 1 ปี นับแต่วันที�รับทราบคําวินิจฉัยของกรรมการจรรยาบรรณ [3(2)/8]
กรณีศึกษา
ข้อ 9 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่ประกอบ วิชาชีพวิศวกรรมเกินความสามารถและความเชี�ยวชาญที�
ตนเองจะกระทําได้
ภาคีวิศวกร สาขาวิศวกรรมโยธา ได้รับเป�นผู้ออกแบบและคํานวณโครงสร้างตลาดสดของเทศบาลแห่งหนึ�ง ต่อมาปรากฏว่าโครงสร้างของหลังคาเกิดการวิบัติ ข้อเท็จจริงได้ความว่าเกิดการแอ่นตัวของโครงสร้าง
หลังคา เกิดจากการที�วิศวกรใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการตรวจสอบ คํานวณ และออกแบบ ในลักษณะ การวิเคราะห์แบบ 2 มิติ ซึ�งอาจทําให้เกิดความผิดพลาดได้ เนื�องจากโปรแกรมไม่สามารถคํานวณได้ทุกมิติ
และไม่มีความแม่นยําเพียงพอ การปฏิบัติงานในลักษณะดังกล่าวถือว่ายังมีความบกพร่อง และขาดความ รอบคอบ รวมทั�งยังมิได้ใช้ความรู้ความสามารถของตนในฐานะวิศวกรผู้ออกแบบคํานวณอย่างเต็มที�
อันถือได้ว่าเป�นการปฏิบัติงานที�ไม่ถูกต้องตามหลักปฏิบัติและวิชาการ และการที�วิศวกรผู้นี�ได้ลงลายมือชื�อ เป�นผู้ออกแบบและคํานวณอาคารตลาด ซึ�งเป�นอาคารสาธารณะ ตามนิยามในกฎกระทรวงฉบับที� 55 (พ.ศ. 2543)ออกตามความตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 จึงเข้าข่ายเป�นการประกอบวิชาชีพ วิศวกรรมควบคุมเกินความสามารถที�ตนเองจะกระทําได้
กรณีศึกษา
คณะกรรมการจรรยาบรรณจึงเห็นสมควรให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมของ วิศวกร โดยมีกําหนดระยะเวลา 2 ปี แต่เนื�องจากวิศวกรได้ยอมรับสารภาพและให้ความร่วมมือในการให้
ข้อเท็จจริงฯ จึงลดโทษลงกึ�งหนึ�ง คงเหลือพักใช้ใบอนุญาตเป�นเวลา 1 ปี
[3(2) และ 3(7)/9]
ข้อ 10 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่ลงลายมือชื�อ เป�นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมในงานที�ตนไม่ได้ทํา
วิศวกรได้ลงลายมือชื�อในหนังสือรับรองการตรวจและทดสอบการติดตั�งเครื�องอุปกรณ์และส่วนควบของ รถที�ใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวเป�นเชื�อเพลิง โดยหนังสือรับรองดังกล่าวยังมิได้มีการกรอกข้อความจํานวน หลายฉบับ โดยอ้างว่าเป�นความประสงค์ของเจ้าของสถานประกอบการนั�น ซึ�งเป�นการกระทําที�ขาดความ ระมัดระวัง โดยอาจมีบุคคลอื�นไปทําการกรอกข้อความในหนังสือรับรองโดยที�ตนเองไม่รู้เห็นด้วยได้และเป�น การกระทําที�ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายตามประกาศนายทะเบียนทั�วราชอาณาจักร เรื�อง การกําหนด คุณสมบัติของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ นิติบุคคล หรือวิศวกรผู้ตรวจและทดสอบส่วนควบและเครื�อง อุปกรณ์รวมทั�งการติดตั�ง กําหนดแบบหนังสือรับรองการตรวจและทดสอบแบบเครื�องหมายการรับรอง และการปิดเครื�องหมายสําหรับรถที�ใช้ก๊าซเป�นเชื�อเพลิง ฉบับประกาศลงวันที� 24 กุมภาพันธ์ 2526
คณะกรรมการจรรยาบรรณจึงเห็นสมควรให้ลงโทษพักใช้ใบอนุญาตฯ ของวิศวกร โดยมีกําหนดระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที�รับทราบคําวินิจฉัยของคณะกรรมการจรรยาบรรณ
[3(9)/10]
กรณีศึกษา
ข้อ 11 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่โฆษณา หรือยอมให้ผู้อื�นโฆษณาซึ�งการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมเกิน
ความเป�นจริง
บทบัญญัติในข้อนี�มีวัตถุประสงค์เพื�อป้องกันมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรม ควบคุม แข่งขันกันรับงานโดยการโฆษณา ซึ�งอาจก่อให้เกิดการแตกแยก เนื�องจากการแย่งงาน กันทํา และส่งผลให้เกิดการแตกความสามัคคีในกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพเดียวกัน
ข้อ 12 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่เรียกรับ ยอมจะรับ หรือให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อย่างใดสําหรับ
ตนเองหรือผู้อื�นโดยมิชอบในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
บทบัญญัติในข้อนี�มีวัตถุประสงค์เพื�อให้ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม เมื�อได้รับงานจาก ผู้ว่าจ้างแล้ว ต้องรักษาผลประโยชน์ของผู้ว่าจ้างเสมือนกับที�วิญ�ูชนทั�วไปพึงรักษาผลประโยชน์
ของตนเอง จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพในข้อนี� มีเจตนารมณ์เพื�อควบคุมให้ผู้ประกอบวิชาชีพ วิศวกรรมควบคุมประกอบวิชาชีพของตนเองด้วยความซื�อสัตย์สุจริต ไม่รับผลประ โยชน์อื�น ที�มิควรได้ นอกจากค่าจ้างที�ได้รับทํางานให้กับผู้ว่าจ้าง เพราะหาก ปล่อยให้ผู้ประกอบวิชาชีพ วิศวกรรมควบคุมเอารัดเอาเปรียบผู้ว่าจ้างแล้ว ความเสื�อมศรัทธาต่อบุคคลและสถาบันแห่ง
วิชาชีพจะเกิดขึ�น บทบัญญัติในข้อนี�จึงมีวัตถุประสงค์เพื�อคุ้มครองผลประโยชน์ของบุคคลทั�วไปด้วย
ข้อ 13 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่ใช้
อํานาจหน้าที�โดยไม่ชอบธรรม หรือใช้อิทธิพล หรือให้ผลประโยชน์
แก่บุคคลใดเพื�อให้ตนเองหรือผู้อื�นได้รับ หรือไม่ได้รับงาน
บทบัญญัติข้อนี�มีวัตถุประสงค์เพื�อควบคุมผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรม ที�มีอํานาจ หน้าที�ในตําแหน่งที�สามารถให้คุณให้โทษแก่ผู้อื�นในด้านต่าง ๆ ใช้อํานาจหน้าที�อันเป�นการบีบบังคับ เพื�อให้ตนเองหรือผู้อื�นได้รับงานหรือบังคับผู้อื�นไม่ให้งานนั�นแก่ฝ่ายตรงกันข้าม ทั�งนี� งานนั�น
ไม่จําเป�นจะต้องเป�นงานเกี�ยวกับการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม และบุคคลทั�วไป หากต้อง เสียประโยชน์จากการกระทําของผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพดังกล่าว ก็ถือว่าเป�นผู้เสียหาย สามารถร้องเรียนกล่าวหาผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมนั�น เพื�อให้
คณะกรรมการจรรยาบรรณพิจารณาความผิดทางจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพได้
หมวด 1 จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ วิศวกรรม
ส่วนที� 3
จรรยาบรรณต่อผู้ว่าจ้าง
ข้อ 14 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่ละทิ�งงาน โดยไม่มีเหตุอันควร
ภาคีวิศวกร สาขาวิศวกรรมโยธา ได้รับควบคุมการก่อสร้างอาคารสูง 6 ชั�น ในขณะก่อสร้างถึง
โครงสร้างชั�นที� 6 ได้ทํานั�งร้านและแบบชั�นหลังคาแล้วเสร็จ โดยขณะเริ�มเทคอนกรีตชั�นหลังคาซึ�งเป�นคาน ยื�น 6 ม. และพื�นอัดแรง (Post Tension) วิศวกรไม่ได้อยู่ควบคุมงาน โดมอบหมายให้หัวหน้าคนงานเป�น ผู้ดูแลแทน ปรากฏว่านั�งร้านรับนํ�าหนักไม่ไหวจึงยุบตัว ทําให้แบบแตกพังลงมา และคนงานพลัดตกลงมา เสียชีวิตหนึ�งราย ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย กรรมการจรรยาบรรณพิจารณาแล้วเห็นว่า ในวันเกิดเหตุ
วิศวกรได้เข้าไปตรวจความเรียบร้อยก่อนเทคอนกรีต และอยู่ดูแลจนถึงเที�ยงวันและรู้สึกไม่สบาย จึงได้
กลับไปพักผ่อนที�บ้าน โดยมอบหมายให้หัวหน้าคนงานเป�นผู้ดูแลแทนนั�น ยังไม่มีนํ�าหนักเพียงพอที�จะรับ ฟังได้เนื�องจากหากวิศวกรไม่สามารถทําการควบคุมงาน หรือจัดให้บุคคลที�มีความรู้ความสามารถใน ระดับเดียวกันเข้าควบคุมการก่อสร้างแทนตนเองได้ จะต้องสั�งให้มีการหยุดการก่อสร้างในส่วนของ
กรณีศึกษา
โครงสร้างที�สําคัญไว้ก่อน ในกรณีนี�ถือว่าวิศวกรผู้ควบคุมงานได้ละทิ�งงานโครงสร้างที�สําคัญในความ รับผิดชอบของตนโดยไม่มีเหตุอันควร ประกอบกับมาตรการป้องกันวัสดุตกหล่นและฝุ่นละอองที�ได้จัดทําไว้
นั�นไม่สมบูรณ์ การกระทําของวิศวกรเป�นการละทิ�งงานที�ได้รับทําโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
คณะกรรมการจรรยาบรรณจึงเห็นควรให้ลงโทษพักใช้ใบอนุญาตฯ ของวิศวกรโดยมีกําหนดระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน
[3(8)/14]
ข้อ 15 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่เปิดเผยความลับ ของงานที�ตนทํา เว้นแต่ได้รับความยินยอมเป�นลายลักษณ์อักษร
จากผู้ว่าจ้าง หรือเป�นการเปิดเผยข้อมูลตามกฎหมาย
นายทองม้วน (ภาคีวิศวกร สาขาวิศวกรรมโยธา) ได้รับการว่าจ้างจากนายทองแดง ซึ�งเป�นผู้รับเหมา ให้ออกแบบโครงสร้างและควบคุมการก่อสร้างอาคาร ค.ส.ล. 3 ชั�น วิศวกรจึงได้จัดทําเอกสารประมาณ ราคาแสดงปริมาณงานและค่าแรง (BOQ)ให้นายทองแดง แต่ปรากฏว่าในระหว่างการทํางานวิศวกรได้
แอบเก็บสําเนาข้อมูลการก่อสร้างทุกรายการโดยมีเจตนาไม่สุจริต และได้นําไปแสดงให้เจ้าของอาคารดู
จนเป�นเหตุให้ผู้รับเหมากับเจ้าของอาคารเกิดการทะเลาะกันในเรื�องราคาวัสดุก่อสร้าง
เนื�องมาจากวิศวกรได้นําเอกสารเกี�ยวกับงานก่อสร้างไปมอบให้เจ้าของอาคารโดยมิได้รับอนุญาตจาก ผู้ว่าจ้าง จึงถือได้ว่าวิศวกรได้เปิดเผยความลับของงานที�ตนได้รับทําโดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ว่าจ้าง คณะกรรมการจรรยาบรรณจึงเห็นควรให้ลงโทษภาคทัณฑ์วิศวกร
[3(8)/14]
กรณีศึกษา
ข้อ 16 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่รับดําเนินงาน ชิ�นเดียวกันให้แก่ผู้ว่าจ้างรายอื�นเพื�อการแข่งขันด้านเทคนิค หรือราคา เว้นแต่ได้แจ้งให้แก่ผู้ว่าจ้างรายแรกทราบล่วงหน้า เป�นลายลักษณ์อักษร หรือได้รับความยินยอมเป�นลายลักษณ์
อักษรจากผู้ว่าจ้างรายแรก และได้แจ้งให้ผู้ว่าจ้างรายอื�นนั�นทราบ ล่วงหน้าแล้ว
บทบัญญัติในข้อนี�มีวัตถุประสงค์เพื�อป้องกันไม่ให้วิศวกรรับทํางานเสนอราคาให้บริษัทใดแล้ว ไม่
ควรจะรับทํางานเสนอราคาให้กับบริษัทอื�นอีกเพื�อป้องกันมิให้เกิดความแตกแยกความสามัคคีใน กลุ่มของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมด้วยกัน
หมวด 1 จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ วิศวกรรม
ส่วนที� 4
จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมวิชาชีพ
ข้อ 17 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่แย่งงาน จากผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมอื�น เพื�อประโยชน์
ของตนเองหรือผู้อื�นโดยมิชอบ
บทบัญญัติในข้อนี�มีวัตถุประสงค์เพื�อป้องกันมิให้เกิดความแตกแยก ไม่มีความสามัคคีระหว่างผู้
ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมด้วยกันเช่น การไม่เสนอผลประโยชน์เพื�อให้ตนเองได้งาน โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เช่น การฮั�วประมูล
ข้อ 18 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่รับทํางาน หรือตรวจสอบงานชิ�นเดียวกันกับที�ผู้ประกอบวิชาชีพ
วิศวกรรมควบคุมอื�นทําอยู่ เว้นแต่เป�นการปฏิบัติตามหน้าที�
หรือเป�นความประสงค์ของเจ้าของงานและได้แจ้งเป�น
ลายลักษณ์อักษรให้ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมอื�นนั�น ทราบล่วงหน้าแล้ว
สามัญวิศวกร สาขาวิศวกรรมโยธา ได้รับงานออกแบบโรงงานแปรรูปเนื�อไก่ให้กับบริษัทแห่งหนึ�ง โดยก่อน รับงานได้เดินทางไปดูสถานที�ก่อสร้าง และพบว่าได้มีการตอกเสาเข็มไปบางส่วนแล้วประมาณร้อยละ 40 ซึ�งส่วนใหญ่เป�นเข็มกลุ่ม จึงคาดว่าได้มีผู้ออกแบบก่อนแล้วและได้แจ้งให้ผู้ว่าจ้างได้แจ้งให้ผู้ออกแบบเดิม ทราบก่อน ต่อมาได้รับใบสั�งงานจากผู้ว่าจ้าง จึงได้จึงเข้าใจว่าผู้ว่าจ้างได้แจ้งให้ผู้ออกแบบเดิมทราบแล้ว จึงได้ทําการออกแบบตามที�ได้รับการว่าจ้าง โดยมิได้มีการติดตามทวงถามว่าได้แจ้งให้ผู้ออกแบบเดิม
ทราบก่อนแล้วหรือไม่ จึงเป�นพฤติกรรมที�ไม่เหมาะสม เพราะวิศวกรยังคงมีหน้าที�ต้องติดต่อประสานงาน ไปยังผู้ออกแบบเดิมก่อน เพื�อให้รับทราบล่วงหน้าถึงการเข้ามาประกอบวิชาชีพของตน
กรณีศึกษา
การกระทําของวิศวกรดังกล่าวจึงเป�นการรับทํางานหรือตรวจสอบงานชิ�นเดียวกันกับที�ผู้ประกอบวิชาชีพ วิศวกรรมควบคุมอื�นทําอยู่
คณะกรรมการจรรยาบรรณจึงเห็นควรให้ลงโทษตักเตือน [3(12)/16]
ข้อ 19 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่ใช้หรือ กระทําการในลักษณะคัดลอกแบบ รูป แผนผัง หรือเอกสาร ที�เกี�ยวกับงานของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมอื�น เว้นแต่
จะได้รับอนุญาตเป�นลายลักษณ์อักษรจากผู้ประกอบวิชาชีพ วิศวกรรมควบคุมนั�น
บทบัญญัติในข้อนี�มีวัตถุประสงค์เพื�อควบคุมความประพฤติของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรม ควบคุม ให้มีความซื�อสัตย์ต่อเพื�อนร่วมวิชาชีพเดียวกัน มิให้เอารัดเอาเปรียบซึ�งกันและกัน เกี�ยวกับแบบ และรายการคํานวณอันเป�นเอกสารที�เกี�ยวข้องกับงานของผู้ประกอบวิชาชีพ วิศวกรรมควบคุม
ข้อ 20 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่อ้างผลงาน ของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมอื�น มาเป�นของตน
ในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม
บทบัญญัติในข้อนี�มีวัตถุประสงค์เพื�อไม่ให้ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมอ้างผลงานของ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมอื�นมาใช้เป�นประโยชน์ต่อการประกอบวิชาชีพวิศวกรรม ของตน
ข้อ 21 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่กระทําการใด ๆ โดยจงใจให้เป�นที�เสื�อมเสียแก่ชื�อเสียง หรืองานของผู้ประกอบ
วิชาชีพวิศวกรรมควบคุมอื�น
วิศวกรจะต้องไม่กระทําการใดๆ ที�จะเป�นการ Discredit วิศวกรอื�น คือ ต้องมีความซื�อสัตย์
ต่อเพื�อนร่วมวิชาชีพ โดยไม่กระทําการใด ๆ ให้เป�นที�เสื�อมเสียแก่ชื�อเสียง หรือผลงานของ ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมอื�น
หมวด 1 จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ วิศวกรรม
ส่วนที� 5 เรื�องอื�น ๆ
ข้อ 22 ผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมต้องไม่กระทําความผิด ในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมตาประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 227 หรือมาตรา 269 จนศาลมีคําพิพากษาถึงที�สุด ว่ามีความผิด
ตามมาตรา 227 กําหนดไว้ว่า ผู้ใดเป�นผู้มีวิชาชีพไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึง
กระทําการนั�น โดยประการที�น่าจะเป�นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื�น ต้องระวางโทษ และมาตรา 269 กําหนดไว้ว่า ผู้ใดในการประกอบการงานในวิชาชีพ ทําคํารับรองเป�นเอกสารอันเป�นเท็จ โดยประการที�น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื�นหรือประชาชน ต้องระวางโทษ
หมวด 2 การประพฤติผิดจรรยาบรรณ อันจะนํามาซึ�งความเสื�อมเสียเกียรติศักดิ�
แห่งวิชาชีพ
ข้อ 23 กรณีที�จะถือเป�นการประพฤติผิดจรรยาบรรณ
อันจะนํามาซึ�งความเสื�อมเสียเกียรติศักดิ�แห่งวิชาชีพ มีดังต่อไปนี�
(1) ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรมตามข้อบังคับนี� และเป�นการ
กระทําโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง จนเป�นเหตุให้บุคคลอื�นต้องได้รับความเสียหาย อย่างร้ายแรงต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน
(2) เคยถูกลงโทษโดยคําสั�งถึงที�สุด เนื�องจากประพฤติผิดจรรยาบรรณ ตามมาตรา 61 แห่ง พระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 แต่ยังประพฤติผิดซ��า หรือไม่หลาบจํา หรือไม่มีความ เกรงกลัวต่อการประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรม
(3) กระทําความผิดในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 หรือมาตรา 269 โดยคําพิพากษาถึงที�สุดให้จําคุก
(4) กรณีอื�นที�คณะกรรมการจรรยาบรรณเห็นว่าเป�นการประพฤติผิดจรรยาบรรณอันจะนํามาซึ�ง ความเสื�อมเสียเกียรติศักดิ�แห่งวิชาชีพ
บทบัญญัติในข้อนี�เป�นกฎเกณฑ์ที�มีลักษณะกว้าง เพื�อให้ครอบคลุมพฤติกรรม หรือลักษณะการ ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมของวิศวกรผู้ได้รับใบอนุญาต ให้ตั�งอยู่บนพื�นฐานของความ ซื�อสัตย์สุจริต ยึดมั�นอยู่ในหลักศีลธรรมอันดี มีความภาคภูมิใจในเกียรติศักดิ�ศรีแห่งวิชาชีพของ ตนเอง
อายุความในการกล่าวหาหรือกล่าวโทษ
พระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 มาตรา 51 อายุความ 1 ปี นับแต่
นับแต่รู้เรื�อง
การประพฤติผิด จรรยาบรรณ แห่งวิชาชีพ
นับแต่รู้ตัว
ผู้ประพฤติผิด และ
กรณีโรงแรมพังถล่ม
13 สิงหาคม 2536 โรงแรมที�จังหวัดนครราชสีมา ถล่มลงมาอย่างรุนแรงและฉับพลัน โดยเฉพาะส่วนที�
ต่อเติมจากเดิม 3 ชั�นเป�น 6 ชั�น คงเหลือไว้เฉพาะอาคารสร้างใหม่ด้านหน้าส่วนที�เป�นโถงลิฟท์ ส่วนด้าน ในซึ�งเป�นอาคารที�ต่อเติมจาก 3 ชั�น เป�น 4 ชั�น ได้ถูกฉุดให้พังทลายเข้าส่วนกลาง การพังทลายจะมี
ลักษณะที�เสาถูกทําลายจนหมดทุกชั�น ทําให้พื�นและคานของอาคารทั�ง 6 ชั�น ร่วงลงมากองซ้อนๆ กัน เหลือความสูงเพียงประมาณ 5 เมตร เท่านั�น ในขณะเกิดเหตุได้มีผู้อยู่ในอาคาร 379 คน
กรณีโรงแรมพังถล่ม
รายงานจากกองอํานวยการเฉพาะกิจเพื�อช่วยเหลือและค้นหาผู้ประสบภัย ซึ�งยุติการค้นหา ณ วันที� 3 กันยายน 2536 สรุปว่าพบผู้เสียชีวิต 137 ศพ บาดเจ็บ 227 คน ซึ�งส่วนใหญ่เป�น ข้าราชการครูกรมสามัญศึกษาที�จัดสัมมนาอยู่ในโรงแรม สาเหตุการวิบัติของอาคารเกิดจาก การต่อเติมอาคารโดยผิดหลักปฏิบัติและวิชาการ
ในส่วนคดีอาญาและคดีแพ่งเพื�อชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้ที�ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตนั�น เรื�อง ของคดีได้สิ�นสุดที�ศาลฎีกาตั�งแต่ ปี2546 แล้ว โดยคดีอาญา ศาลได้พิพากษาลงโทษจําคุก วิศวกรผู้ออกแบบและควบคุมอาคาร เป�นเวลา 37 ปี
เมื�อวันที� 3 มีนาคม 2552 ศาลอุทธรณ์จังหวัดนครราชสีมาได้พิพากษาให้จําเลยที� 3 คือ เทศบาลเมืองนครราชสีมา ในขณะนั�น จําเลยที� 6 บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง จําเลยที� 7 เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และจําเลยที� 8 วิศวกร บ.ร่วมกับจําเลยที� 1 คือวิศวกร ผู้ออกแบบและควบคุมอาคาร ร่วมกันช�าระค่าเสียหายให้กับบริษัทโจทย์ผู้ยื�นฟ้อง เป�นจํานวน เงิน 152,232,034.70 บาท (หนึ�งร้อยห้าสิบสองล้านสองแสนสามหมื�นสองพันสามสิบสี�บาท เจ็ดสิบสตางค์) พร้อมดอกเบี�ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั�งแต่วันที� 13 สิงหาคม 2536 เป�น ต้นไป (ดอกเบี�ยอีกประมาณ 200 ล้านบาท)
เมื�อพบเรื�องที�ไม่ชอบธรรม ถ้าแก้ไขไม่ได้
ให้เลี�ยง และอย่าทําเสียเอง
“ประกอบวิชาชีพด้วยความระมัดระวัง”
Thank you.